ในปัจจุบันต้องบอกว่า เทรนด์ฉีดปากเกาหลี ปากกระจับ เพื่อเพิ่มความอวบอิ่มนั้น ได้รับความนิยมจริงๆ ยังคงมีแนวโน้มว่าจะยังคงได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความที่เป็นหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัด เห็นผลไว ไม่ต้องนอนพักฟื้น ที่สำคัญราคาไม่แพง
โดยในบทความนี้ เราจะมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดปากเกาหลีกัน สำหรับใครที่ต้องการฉีดปากเกาหลี แต่ยังไม่มีข้อมูล และยังไม่รู้ว่าจะฉีดปากเกาหลียี่ห้อไหนดี ต้องเลือกทรงปากแบบไหน ถึงจะเหมาะกับใบหน้า เราหาคำตอบมาให้แล้ว มาลองอ่านดูได้เลย รับรองมีประโยชน์
การฉีดฟิลเลอร์ปาก คืออะไร
ฟิลเลอร์ปาก เป็นการฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) เพื่อเติมเต็มให้ปากมีความอวบอิ่ม ด้วยคุณสมบัติของฟิลเลอร์ที่ช่วยกักเก็บน้ำ และความชุ่มชื้น (Hydration) สามารถเติมเต็ม หรือเสริมในชั้นผิวหนังให้เต่งตึง เรียบเนียน แถมยังช่วยลดริ้วรอย จึงทำให้นิยมนำมาใช้ในวงการเสริมความงาม ตอบโจทย์ในการแก้ปัญหาผิวหน้าได้อย่างครอบคลุม
ข้อควรรู้ ก่อนฉีดปากเกาหลี
ก่อนจะฉีดปากเกาหลี แนะนำให้ศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ให้ละเอียดก่อน เช่น ควรฉีดยี่ห้อไหน และฉีดกี่ซีซี รวมถึงก่อน และหลังฉีดฟิลเลอร์ปากไปแล้ว ควรดูแลตัวเองอย่างไร เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม อยู่ได้นาน โดยส่วนใหญ่ฟิลเลอร์นิยมจะมีอยู่ 3 ยี่ห้อ คือ ฟิลเลอร์ Juvederm จากประเทศอเมริกา , ฟิลเลอร์ Restylane จากประเทศสวีเดน , ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Belotero จากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งแต่ละยี่ห้อจะมีลักษณะดังนี้
ฟิลเลอร์ Juvederm
- Juvederm volift เนื้อนิ่ม และละเอียด มีความยืดหยุ่นสูง ฉีดแล้วดูเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน สามารถอยู่ได้ถึง 12 เดือน
- Juvederm Ultra Plus เนื้อนิ่ม และฟูมาก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปากสายฝอ สามารถอยู่ได้ถึง 12 เดือน
- Juvederm voluma เนื้อแข็ง และฟูปานกลาง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปากอวบอิ่ม ฉ่ำวาว สามารถอยู่ได้ถึง 18 เดือน
- Juvederm volite เนื้อละเอียด ให้ความชุ่มชื้นได้ดี เหมาะสำหรับผู้ที่มีปากแห้ง เป็นร่อง สามารถอยู่ได้ถึง 8-12 เดือน
ฟิลเลอร์ Restylane
- Restylane vital light เนื้อนิ่ม ชุ่มชื้น อุ้มน้ำได้ดี เหมาะสำหรับผู้ที่มีริมฝีปากแห้ง โดยไม่ต้องการเพิ่มความอวบอิ่ม สามารถอยู่ได้ถึง 6-12 เดือน
- Restylane volyme เนื้อนิ่มปานกลาง ยืดหยุ่นสูง อุ้มน้ำได้ ไม่เป็นก้อน สามารถอยู่ได้ถึง 18 เดือน
- Restylane Refyne เนื้อยืดหยุ่น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปากอวบอิ่ม สามารถอยู่ได้ถึง 12 เดือน
- Restylane Kysse เนื้อละเอียด แต่มีความคงตัว ออกแบบมาสำหรับใช้เติมเต็มริมฝีปากโดยเฉพาะ สร้างขอบริมฝีปากที่ชัดเจนให้ความชุ่มชื้น และความอวบอิ่ม สามารถอยู่ได้ถึง 12 เดือน
ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Belotero
- Belotero Volume เนื้อแน่น อยู่ทรง ช่วยเพิ่ม Volume ให้ปากได้ดี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทรงปากสายฝอ สามารถอยู่ได้ถึง 12-18 เดือน
ก่อน – หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ต้องดูแลตัวเองอย่างไร
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก
- หาข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อ ขนาดซีซี รวมถึงศึกษาวิธีดูฟิลเลอร์แท้
- ดูรีวิวจริงจากผู้ใช้บริการจริงในแต่ละคลินิก ว่าผลลัพธ์เป็นยังไง มีข่าวด้านลบหรือไม่
- ควรงดยา แอสไพริน , NSAIDs วิตามิน ยาทาชนิดผลัดเซลล์ผิว และการแว็ก
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชม.
- งดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด เช่น การออกกำลังกาย
- หากมีโรคประจำตัว และมียาที่ทานเป็นประจำ หรือเคยผ่าตัดปากมาก่อน ต้องแจ้งแพทย์ทราบ
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ปาก
- เมื่อเลือกทรงปากที่ต้องการได้แล้ว แพทย์จะแนะนำยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ฉีด และจำนวน CC ที่ใช้ในการฉีด
- ก่อนเริ่มฉีดฟิลเลอร์ปาก แพทย์จะทำการแปะยาชา โดยรอประมาณ 20-40 นาที ยาชาจึงจะออกฤทธิ์
- เมื่อยาชาออกฤทธิ์ แพทย์ทำการฉีดฟิลเลอร์ปาก ปั้นทรงปากตามที่ออกแบบไว้
- ขณะฉีดฟิลเลอร์ จะมีอาการเจ็บเล็กน้อย แต่อยู่ในระดับที่ทนได้ โดยจะใช้เวลาในการฉีดประมาณ 15-30 นาทีต่อเคส
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
- ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มร้อนๆ ทุกชนิด เพราะอาจเกิดทำให้ปากบวม หรืออักเสบได้
- งดการทำกิจกรรม หรือการออกกำลังหนักๆ
- ควรดื่มน้ำเปล่าเยอะๆ เพื่อเพิ่มการอุ้มน้ำของฟิลเลอร์ ช่วยให้ฟิลเลอร์ฟูขึ้น และอยู่ได้นาน
- ห้ามดึง หรือลอกหนังริมฝีปาก เพราะจะทำให้ผิวเก็บกักน้ำ และความชุ่มชื้นได้น้อยลง
- หลังฉีด พยายามอย่าสัมผัสริมฝีปาก เพื่อป้องกันฟิลเลอร์เคลื่อน
สัดส่วนรูปปากที่ดี ควรเป็นอย่างไร
สัดส่วนริมฝีปากที่เหมาะสมกับใบหน้า จะต้องมีลักษณะดังนี้
- ขนาดของริมฝีปาก บน:ล่าง จะเป็นสัดส่วน 1:1.618
- เมื่อมองด้านข้าง แล้วลากเส้นจากปลายจมูกลงมาที่คาง ริมฝีปากล่างควรจะแตะเส้นนี้พอดี ส่วนริมฝีปากบนควรจะห่างจากเส้นนี้ 2 มิล
- เนื้อริมฝีปากล่างไม่ควรใหญ่เกินขอบเขตของยอดตัว M ของริมฝีปากบน
- มุมปากควรยกขึ้น ไม่ทิ่มลง
- เนื้อปากอวบอิ่ม เรียบเนียน ไม่มีริ้วรอย
- ขอบรอยต่อระหว่างริมฝีปากกับผิวหนัง ไม่มีริ้วรอย
สำหรับการฉีดปากเกาหลี จุดที่ต้องใส่ใจรายละเอียดเป็นพิเศษ คือบริเวณขอบปาก และร่องบนริมฝีปาก เพราะหลายคนมักจะมีปัญหาขอบปากเบลอ ไม่ชัด ปากแบนไม่เป็นทรง
ฉีดปากเกาหลีทรงไหนดี
- ฉีดปากเกาหลีทรง Cherry Lips เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเพิ่มความหวานให้กับใบหน้า หน้าดูเด็กลง ปากทรงนี้จะมีลักษณะเหมือนลูกเชอร์รี่ 2 ลูก มาประกบกันอยู่ตรงกลางริมฝีปาก โดยช่วงกลางของริมฝีปากบน และล่างจะดูอิ่มฟูกว่าด้านข้าง
- ฉีดปากเกาหลีทรงปากกระจับ ปากปีกนก หรือปากปีกนก เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเพิ่มเสน่ห์ให้กับใบหน้า หลังจากทำ ปากจะอวบอิ่ม เป็นทรงกระจับ มีขอบปากชัดเจนมากขึ้น
- ฉีดปากเกาหลีทรงธรรมชาติ เหมาะกับคนที่ต้องการให้ปาก อวบอิ่มขึ้นเล็กน้อย เน้นเติมความชุ่มชื้น แก้ปัญหาปากแห้ง ปากตกร่อง หลังทำ ริมฝีปากจะดูสุขภาพดีมากขึ้น
สรุป
เป็นอย่างไรกันบ้าง กับข้อมูลที่เรานำมาเสนอกันในบทความนี้ หวังว่าคงมีประโยชน์กับใครหลายคน ที่กำลังมีแพลนที่จะไปฉีดปาก ทั้งนี้การฉีดปากเกาหลี ควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด และเลือกคลินิกฉีดปากเกาหลี ที่น่าเชื่อถือ มีรีวิวมากพอ (โรงพยาบาลศัลยกรรม เกาหลี ยอดนิยม มีอะไรบ้าง) ที่สำคัญควรปรึกษากับแพทย์โดยตรง เพื่อให้แพทย์ช่วยประเมิน และแนะนำปากทรงที่เหมาะสม และเข้ากับใบหน้ามากที่สุด